นอกเหนือจากที่เลเซอร์หน้าใสจะสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการรักษาปัญหาผิวอื่นๆ ได้ เช่น

• ลดรอยดำและรอยแดงจากสิว
• ช่วยปรับให้สีผิวสม่ำเสมอกัน
•  กระชับรูขุมขนให้เล็กลง
• ลดเลือนริ้วรอยบางๆ บนใบหน้า
• ช่วยให้หลุมสิวหรือแผลจากสิวตื้นขึ้น

โดยปกติแล้ว เซลล์ผิวจะผลัดเป็นปกติทุกๆ 4-6 สัปดาห์ แต่เลเซอร์หน้าสามารถช่วยย่นระยะเวลาในการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น ทำให้ผิวกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในการดูแลผิวอย่างรวดเร็ว 

เลเซอร์หน้าใส  เหมาะสำหรับ ?

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
• ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ หรือเส้นเลือดขอดบางๆ
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้างหรือหลุมสิว
• ผู้ที่ขาดการบำรุงดูแลผิว
• ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นใจจากปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ

สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวก็สามารถเข้ารับบริการเลเซอร์หน้าใสได้  หากต้องการให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น หรือรู้สึกว่าผิวหมองคล้ำกว่าแต่ก่อน แต่สำหรับผู้ที่มีรอยฝ้ากระฝังลึก หรือมีปัญหาหลุมสิว หากแค่เลเซอร์หน้าใสอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาผิวเพียงพอ เพราะต้องบอกว่าเลเซอร์หน้าใสไม่สามารถช่วยรอยกระฝังลึก รักษาหลุมสิวได้  ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการ

ใครที่ควรหลีกเลี่ยงทำเลเซอร์หน้าใส ?

• สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่ให้นมบุตร เนื่องจากพลังงานเลเซอร์อาจส่งผลต่อสุขภาพมารดาและบุตร
• ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น
• ผู้ที่มีแผลสด แผลผ่าตัดที่ยังไม่ครบ 6 เดือน
• ผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือสิวหนอง ควรรับการรักษาก่อนทำเลเซอร์หน้า
  

โดยผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบางประเภทหรือเป็นสิวอาจต้องทายาที่ส่งผลให้ผิวหนังบาง  ซึ่งทำให้เกิดอาการผิวด่างจากการทำเลเซอร์หน้าใสได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะสามารถวินิจฉัยและรับการรักษาในวิธีที่เหมาะสมกับตนเองต่อไป

เปรียบเทียบเลเซอร์หน้าใสแต่ละประเภท

IPL เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มสูงไปจับกับเม็ดสีเมลานิน (melanin) เพื่อรักษาปัญหาผิวและกระตุ้นฟื้นฟูผิวบริเวณที่ต้องการ รวมถึงนำมาใช้กำจัดขนบริเวณต่างๆ ซึ่งในแต่ละปัญหาผิวก็จะมีการใช้ความยาวคลื่นที่ต่างกันไปโดยจะอยู่ที่ประมาณ 420-1200 nm (นาโนเมตร) จุดเด่นของเลเซอร์ IPL คือสามารถใช้รักษาสิว  รวมถึงรอยแดงที่เกิดจากแสงแดด  และกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับความยาวคลื่นและพลังงาน  

ข้อดี คือ สามารถรักษาปัญหาผิวในชั้นลึกโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นนอก อ่อนโยนต่อผิว จึงทำให้ระหว่างทำนั้นรู้สึกเจ็บน้อยมากหรือไม่รู้สึกเลย หลังจากที่ทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น  และมีราคาที่ย่อมเยากว่าการใช้เลเซอร์หน้าใสตัวอื่น

ข้อเสีย คือ ต้องทำต่อเนื่องบ่อยครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน  

Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์หน้าใสที่มีความยาวคลื่น 532nm และ 1064nm ซึ่งนอกจากจะสามารถสลายเม็ดสีได้ลึกถึงชั้นหนังแท้แล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน  ช่วยรักษารอยดำ ลดเม็ดสี  ปรับผิวให้กระจ่างใส กระชับรูขุมขนได้อีกด้วย

ข้อดี คือ ใช้เวลาในการทำไม่นาน เพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงยังราคาย่อมเยากว่าเลเซอร์หน้าตัวอื่นด้วย 

ข้อเสีย คือ อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำและหลังทำ หรือหากใช้พลังงานสูง อาจเกิดการตกสะเก็ดบริเวณที่ทำได้  

Fractional CO2 Laser เป็นเลเซอร์หน้าใสที่ยิงลำแสงขนาดเล็กซึ่งมีความยาวคลื่น 10600nm สำหรับสร้างรอยแผลในผิวหนังให้เกิดรูขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นให้ผิวหน้ามีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และสร้างเซลล์ผิวใหม่มาแทน จึงทำให้เลเซอร์หน้าใส Fractional CO2 มีส่วนช่วยปรับให้หลุมสิวแลดูตื้นขึ้น 

ข้อดี คือ สามารถรักษาปัญหาหลุมสิว ริ้วรอยบางๆ รวมถึงกระชับรูขุมขนไปพร้อมกับการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ 

ข้อเสีย คือ อาจทำให้ผิวหน้าตกสะเก็ดและมีอาการผิวไหม้หลังจากทำได้ แต่จุดเด่นคือไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการทำ เนื่องจากจะต้องใช้ยาชาก่อนการรักษา และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน บางรายอาจทำเพียงไม่กี่ครั้ง

E-Matrix นวัตกรรม Fractional ใหม่ล่าสุด ที่ใช้ RF (Radio Frequency) โดยความร้อนที่เกิดจากพลังงาน RF ด้วยวิธี Sublative จะทำให้เกิดแผลขนาดเล็กที่หน้าตัดสวยงาม (ทำให้ง่ายต่อการที่ร่างกายจะฟื้นฟูตัวเอง) ลงไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างcollagen ขึ้นใหม่ที่ผิวด้านล่างบริเวณที่เกิดแผล ทำให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ส่งผลทำให้ริ้วรอย หลุมสิวตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นผิวเรียบเนียน กระชับ และมีความยืดหยุ่นของผิวดียิ่งขึ้น

ข้อดี คือ พลังงาน Fractional Radiofrequency ไม่มีผลต่อสีผิว ทำให้ลดปัญหารอยไหม้ต่างจากพลังงานเลเซอร์ 

ข้อเสีย คือ ต้องพักการทำกิจกรรมหลังรับการรักษาและระหว่างทำก็อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย รวมถึงมีโอกาสเกิดแผลตกสะเก็ดเพราะต้องทำให้ผิวเกิดบาดแผล 

Dual Yellow Laser จุดเด่นของเลเซอร์ตัวนี้คือสามารถรักษาสิวได้ 

ข้อดี คือ ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างทำ และหลังจากทำแล้วก็สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติเพราะอ่อนโยนต่อผิว

ข้อเสีย คือ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยฝ้าหรือกระฝังลึกเนื่องจากจะเห็นผลไม่ชัดเจน 

ทั้งนี้การจะเลือกทำเลเซอร์หน้าใสจึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้าน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำเลเซอร์หน้าใสนั้นน่าพึงพอใจปลอดภัย และคุ้มค่ามากที่สุด โดยปัจจัยต่าง ๆ ที่ควรนำมาพิจารณาสำหรับการเลือกคลินิกเลเซอร์หน้าใสมีดังนี้

• คลินิกเลเซอร์หน้าใสที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานความปลอดภัย 
• เทคโนโลยีและเครื่องต้องผ่านการรับรองที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
• ทีมแพทย์และบุคลากรที่ให้บริการในคลินิกมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• ภายในคลินิกจะต้องมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่สะอาดอยู่เสมอ

เลเซอร์งานผิว ที่ VDESIGN CLINIC เลือกใช้ 

Vdesign Clinic เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องเลเซอร์หน้า ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ฝ้ากระ หลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน ที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด การันตีการให้บริการเรื่องผลลัพธ์ และความปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานเครือโรงพยาบาล นำเข้าเครื่องเลเซอร์ได้มาตรฐานความปลอดภัย  เครื่องแท้ผ่านการรับรองระดับนานาชาติ US FDA จากอเมริกา /EU FDA จากยุโรป / KFDA จากเกาหลี และ TH FDA ของไทยอีกทั้งมีการดูแลและให้บริการโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่จะคอยให้คำแนะนำ และวิเคราะห์ปัญหา เพื่อออกแบบการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวของผู้รับบริการ  รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผ่านการฝึกอบรม มีประสบการณ์ให้บริการมาแล้วกว่าหมื่นเคส ลูกค้าจึงพึงพอใจในผลลัพธ์ ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน และราคาที่คุ้มค่า

PICO Laser   

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เหนือกว่า เลเซอร์ทั่วไป 1,000 เท่า พลังงานลงลึก แม่นยำ ใช้ระยะเวลาสั้น พัฒนาต่อมาจาก Q-Switch Laser ที่เรียกว่า Picosecond Laser ปล่อยพลังงานได้ความเร็วสูงสุด1 ล้านล้านวินาที / ครั้ง" เครื่องแท้ผ่านการรับรองมาตรฐาน KFDA จากเกาหลี และอย.ไทย 

Vdesign Clinic  มีโปรแกรม Pico Laser หลายโปรแกรมแยกย่อยลงไป เพื่อการรักษารักษาปัญหาผิวที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ บางโปรแกรมหลังทำหน้าแดงอมชมพู บางโปรแกรมหลังทำแล้วหน้าตกสะเก็ด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของสภาพผิว และการประเมินของแพทย์เพื่อให้เหมาะสมกับการรักษาโปรแกรมนั้นๆ 

Pico Bright หน้าใส ลดจุดด่างดำ 

โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความกังวลในเรื่องของความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำรอยแดง รูขุมขนกว้าง โดยใช้พลังงานที่ลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ สามารถแก้ปัญหาผิวได้โดยตรง และยังเป็นการปรับกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น ผิวจะดูกระจ่างใสขึ้นหลังจากที่ทำ โดยจะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรก

Pico Melasma รักษาฝ้า กระ 

โปรแกรมการรักษาที่ใช้นวัตกรรม Pico Laser ทำการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ไปบริเวณผิวที่มีปัญหาเพื่อทำลายเม็ดสีส่วนเกิน และกำจัดออกจาร่างกาย จากนั้นยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิวหนังขึ้นมาใหม่ นอกจากจะทำให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรง หนาแน่นกระชับ และมีความยืดหยุ่นแล้ว  ยังช่วยสร้างผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น สีของฝ้า กระ จุดด่างดำ แลดูจางลง เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้า (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล รวมทั้งความลึกของฝ้า หากเป็นฝ้าระดับตื้น จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าผู้เป็นฝ้าระดับลึก

Pico Scar  รักษาหลุมสิว   

โปรแกรมที่ใช้นวัตกรรมที่ใช้ทางเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Pico Laser ผสมผสานกับการวางแผนเพื่อรักษาปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ ใช้เทคนิคการรักษาเฉพาะที่ VDesign Clinic โดยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญการสูง สามารถวางแผนการรักษาให้เหมาะกับสภาพปัญหาของผิวแต่ละบุคคลสูงสุด  ทำให้สามารถรักษาหลุมสิวอย่างเป็นขั้นตอน สามารถเห็นผลลัพธ์ถึงการเปลี่ยนแปลงและรักษาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาหลุมสิวและช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ดูดีขึ้นได้

Pico Smooth & Bright หน้าเรียบเนียน กระจ่างใส 

โปรแกรมเลเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะ ผสมผสานกับโปรแกรมทรีทเมนท์บำรุงผิว 4 STEP ช่วยฟื้นฟู บำรุงผิวหน้า ปรับสภาพผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส 

Q-Switch Laser   

เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นและหนาแน่นสูง โดยมีความยาวคลื่นประสิทธิภาพ มากกว่า Advance IPL ถึง 8 เท่า นวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่กังวล จุดด่างดำ รอยดำแดงสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอเครื่องแท้ ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลและ อย. ไทย

• ลดความหมองคล้ำ ลดเม็ดสีเมลานิน  ผิวหน้าสว่างกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์
• ฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง
• ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงยังชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ดีอีก
• ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง  ผิวเรียบเนียนขึ้น
• ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ 
• สามารถใช้แก้ปัญหาเรื่องสีปากคล้ำได้

Trios Brightening IPL Laser

นวัตกรรม Advance IPL จากอเมริกา โดดเด่นกว่า เลเซอร์ ทั่วไป โดยสามารถเห็นความกระจ่างใสได้ ตั้งแต่ครั้งแรก  ไม่เจ็บ ผลข้างเคียงน้อย เครื่องแท้ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก U.S. FDA จากอเมริกาและ อย. ไทย

• ปรับสภาพสีผิว ให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ผิวขาวใสขึ้น
• ลดรอยดำ รอยแดง จากสิว 
• รูขุมขนที่กว้าง จะกระชับเล็กลง ผิวเรียบเนียน
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว สร้างเซลล์ผิวใหม่

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส 

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนที่จะทำเลเซอร์หน้าใสก็คือ วิธีการเตรียมตัวอย่างถูกต้องนั่นเอง เนื่องจากการทำเลเซอร์หน้าใสนั้นจะส่งผลต่อชั้นผิวโดยตรง ซึ่งถ้าหากไม่มีการเตรียมตัวที่ดีก็อาจทำให้ผิวหน้าเสียหายได้ ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ของการทำเลเซอร์หน้าใสได้รับความพึงพอใจ และลดอัตราความผิดพลาดให้ได้มากที่สุด จึงควรมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้

• รับประทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายมีกระบวนการเสริมสร้างคอลลาเจนที่ดียิ่งขึ้น
• ป้องกันไม่ให้ผิวหน้าถูกทำร้ายจากแสงแดด โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง รวมถึงเลือกทาครีมกันแดด SPF สูง ก่อนที่จะเข้าทำเลเซอร์หน้าใสประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคือง
• งดทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์, AHA หรือ BHA ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด เพราะส่วนผสมดังกล่าวจะมีส่วนทำให้ผิวหน้าเกิดการผลัดเซลล์ผิวออก จนทำให้ผิวหน้าไวต่อความร้อนและแสงต่าง ๆ ได้
• เลือกทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าขาดน้ำหรือแห้งจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเจ็บหรือแสบในขณะที่ทำเลเซอร์หน้าใสได้
• ในกรณีที่มีแผลสดบนใบหน้าควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้าทำเลเซอร์หน้าใส เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากการทำเลเซอร์หน้าใส

ขั้นตอนการทำเลเซอร์หน้าใส
สำหรับขั้นตอนการทำเลเซอร์หน้าใสนั้นจะมีเพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น คือ

1. เช็ดทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจดก่อนเริ่มทำเลเซอร์หน้าใส
2. สวมใส่แว่นกันแสงหรือผ้าปิดตาเพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาถูกทำร้ายจากเลเซอร์
3. ทายาชาหรือเจลเย็นลงบนผิวหน้าเพื่อบรรเทาอาการเจ็บหรือแสบในขณะที่ทำเลเซอร์หน้าใส
4. เริ่มทำเลเซอร์หน้าใสโดยการยิงเลเซอร์ลงบนผิวหน้าหรือจุดที่ต้องการแก้ปัญหาผิว
   

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หลังจากทำเลเซอร์หน้าใส 

• ในช่วงระยะเวลา 5-7 วันแรงหลังจากทำเลเซอร์หน้าใสผิวหน้าอาจเกิดภาวะแห้งกร้านหรือผิวลอก
• การทำเลเซอร์หน้าใสบางแบบอาจเกิดสะเก็ดขึ้นบนใบหน้าหลังจากทำเลเซอร์หน้าใสได้ ทว่าสะเก็ดจะสามารถหลุดออกเองได้เมื่อเวลาผ่านไป 5-7 วัน
• หลังทำเลเซอร์หน้าใส ผิวหน้าสามารถเกิดการอักเสบหรือบวมแดงขึ้นได้ แต่ก็สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาเพิ่มเติม
• ในบางกรณีหลังทำเลเซอร์หน้าใสแล้วอาจเกิดสิวขึ้นบนใบหน้า หรือไปกระตุ้นโรคผิวหนังได้ เช่น เริมบริเวณริมฝีปาก เป็นต้น
• หลังทำเลเซอร์หน้าใสผิวหน้าหรือจุดที่ยิงเลเซอร์อาจมีสีเข้มขึ้นได้ ทั้งนี้ก็สามารถปรับสีผิวที่เข้มขึ้นนี้ให้จางลงได้โดยการทา Bleaching Cream เพื่อเป็นการลดการทำงานของเม็ดสี

REVIEW

FAQ

Q : เลเซอร์หน้าใสเจ็บไหม?

A : ความเจ็บในการทำเลเซอร์หน้าใสขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ที่ทำ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือแบบลอกผิว (Ablative Laser Resurfacing) และแบบที่ไม่ทำให้เกิดแผล (Non-ablative Laser Resurfacing) โดยเลเซอร์แบบลอกผิวอาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าเนื่องจากเป็นการใช้ความร้อนจากเลเซอร์ในการลอกชั้นผิวบางออก แต่แบบที่ไม่ทำให้เกิดแผลจะเป็นการปล่อยพลังงานเข้าไปยังผิวชั้นใน ทั้งนี้ความเจ็บนั้นเป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ และขึ้นอยู่กับตัวบุคคล หากรู้สึกเจ็บเกินก็สามารถแจ้งแพทย์เพื่อปรับลดพลังงานเลเซอร์ที่ใช้ได้

Q : เลเซอร์หน้าใสต้องทำซ้ำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A : เลเซอร์หน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ โดยปกติทั่วไปควรทำอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง โดยห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อว่าตนเองควรเลือกใช้เลเซอร์ชนิดไหนถึงจะเห็นผลตามที่คาดหวัง

Q : เลเซอร์หน้าใส ทำให้ผิวหน้าจะบางหรือไม่?

A :  การเลเซอร์ไม่ได้ทำให้หน้าบางลงในทางตรงกันข้าม การเลเซอร์หลายชนิดโดยเฉพาะเลเซอร์ที่ใช้ปรับสภาพผิวจะกระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่เรียบและหนากว่าผิวเก่า หรือ การใช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหน้า  แม้ว่าการเลเซอร์หน้าจะไม่ทำให้ผิวบาง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดเลเซอร์ให้เหมาะกับผิวหน้า ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานพยาบาลที่ดีจะไม่มุ่งเน้นการขายคอร์สเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอน Consult ไปจนถึงขั้นตอนการรักษา เพื่อให้ได้ผลที่ดีและปลอดภัยที่สุดหลังการรักษาอีกด้วย