HIFU 7D สุดยอดนวัตกรรมยกกระชับผิว เผยหน้าเรียวแบบ V-Shape

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ รวมถึงริ้วรอยและร่องแก้ม เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สาว ๆ หลายคนหนักใจ และไม่ว่าจะใช้ครีมตัวไหนก็แก้ไม่หายเสียที แต่อย่าเพิ่งรู้สึกท้อหรือหมดกำลังใจกันไป เพราะทุกวันนี้เรามีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนึ่งในนั้นก็คือ “HIFU D7” ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์และเรียวสวยให้ใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเสียเวลาผ่าตัดและพักฟื้นเลย วันนี้ Vdesign Clinic ขอพาทุกคนมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้น พร้อมตอบทุกข้อสงสัย ให้ทุกคนที่สนใจมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น

สารบัญ

HIFU คืออะไร

HIFU (ไฮฟู่) ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บมาก และให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ช่วยให้คุณมีผิวที่อ่อนเยาว์และดูดีขึ้น นอกจากนี้ตัวเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Hifu 7D มีความทรงพลังกว่า HIFU ทั่วไปถึง 3 เท่า ทำให้ HIFU กลายเป็นอีกทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ

ทำไมต้องเลือก HIFU

สามารถสรุปได้เป็นข้อใหญ่ ๆ ดังนี้:

• ผลลัพธ์ที่เหนือกว่า: ยกกระชับได้ล้ำลึกกว่า เผยผลลัพธ์หน้าเรียว V-Shape ชัดเจน
• ปลอดภัย: ไม่ต้องเสี่ยงผ่าตัด และไม่เจ็บมาก
• เห็นผลเร็ว: เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
• ไม่ต้องพักฟื้น: สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• เหมาะกับทุกสภาพผิว: สามารถปรับระดับพลังงานได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล

วิธีการทำงานของการรักษาด้วยคลื่นเสียง HIFU

วิธีการทำงานของการรักษาด้วยคลื่นเสียง HIFU อธิบายง่าย ๆ คือ ตัว HIFU จะปล่อยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ความเข้มสูงเข้าสู่ชั้นผิว ทำให้เกิดความร้อนที่จุดโฟกัส ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือน และรูปหน้าเรียวขึ้น

ขณะเดียวกัน การที่คลื่นดังกล่าวลงลึกไปถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ทำการผ่าตัดดึงหน้า ก็ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินหดตัวร่วมกับการกระตุ้นการสร้างใหม่ด้วย ทำให้ผิวเรากระชับขึ้น ริ้วรอยก็ดูตื้นขึ้น และมีรูปหน้าที่เรียวขึ้น

ข้อดีของ HIFU

ข้อดีของ HIFU สำหรับผิวพรรณของเรา

• ช่วยยกกระชับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวเป็น V-Shape
• ช่วยกระชับบริเวณแก้ม เหนียง ส่งผลให้กรอบดูหน้าชัด
• มีประสิทธิภาพลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้มอย่างชัดเจน
• กระตุ้นสร้างคอลลาเจน คืนความยืดหยุ่นให้ผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ อิ่มฟูมากขึ้น

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ HIFU

สำหรับขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ HIFU ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเข้าทำต้องงดรับประทานยากลุ่มแอสไพริน และวิตามินต่าง ๆ เสียก่อน ขณะที่ในช่วง 3-5 วันก่อนทำก็ต้องงดการทำเลเซอร์บริเวณผิวที่จะต้องทำ HIFU ด้วย

นอกจากนี้ควรงดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงหมั่นรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างเต็มที่ และทำให้การทำ HIFU เห็นผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการทำ HIFU ที่ Vdesign Clinic จะมีการนัดปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิวเบื้องต้น ได้แก่

• นพ.จตุรงค์ สร้อยศรี (หมอต้นไม้) แพทย์ American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine ผู้มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ การปรับรูปหน้า และผิวพรรณ
• พญ.ปิยะนุช ตระกูลพรายงาม (หมอจ๋า) แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า และผิวพรรณ จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
• พญ.ปรารถนา ชุนหคาม (หมอปัด) แพทย์ American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine ผู้มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า และผิวพรรณ
• พญ.ชณิศา พานิช (หมอออม) แพทย์ American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine ผู้มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ผิวพรรณ และเวชศาสตร์ชะลอวัย

โดยผู้สนใจสามารถตรวจสอบตารางออกตรวจของแพทย์เพื่อทำการนัดหมายได้ต่อไป

ขั้นตอนการทำ HIFU

ในส่วนของขั้นตอนการทำ HIFU โดยสรุปมีอยู่หลัก ๆ 5 ขั้นตอน ได้แก่

• ทำความสะอาดผิวหน้า
• ทาเจลอัลตราซาวนด์เพื่อให้พลังงานถูกส่งไปใต้ชั้นผิว
• ทำการรักษาด้วยเครื่อง HIFU ยิงพลังงานถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อยกกระชับผิว โดยขณะทำจะรู้สึกอุ่น ๆ ใต้ผิวบริเวณที่เลือกทำ
• หลังจากทำการรักษาเสร็จเรียบร้อย จะมีการทำความสะอาดใบหน้า
• ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดเพื่อป้องกันและบำรุงผิว

ผลลัพธ์และระยะเวลาที่เห็นผลจากการทำ HIFU

ผลลัพธ์และระยะเวลาที่เห็นผลจากการทำ HIFU สามารถเห็นได้ทันที 30% และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 1 เดือน เนื่องจากผิวจะค่อย ๆ สร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะเวลา 3 สัปดาห์ ส่วนตัวผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือนแล้วแต่บุคคล

ความปลอดภัยของการทำ HIFU

อ่านถึงจุดนี้หลายคนอาจกำลังชั่งใจและมีคำถามถึงความปลอดภัยของการทำ HIFU ในเบื้องต้นจึงจะขอคลายกังวลว่า HIFU ถือว่ามีความปลอดภัย เพราะหลักการทำงานของ HIFU คือการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงพลังงานสูง ส่งตรงไปยังชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีดสารเคมีใด ๆ เข้าสู่ผิว จึงไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือแพ้สาร

แต่เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ที่รับประกันได้ว่าใช้เครื่อง HIFU ของจริงที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพเต็มขั้น และควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำด้วย

ข้อควรระวังในการทำ HIFU

ข้อควรระวังในการทำ HIFU สำหรับในส่วนของกระบวนการอาจจะไม่มี แต่ที่น่ากังวล คือ การทำ HIFU อาจเป็นอันตรายได้ถ้าทำกับคลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นก่อนทำควรศึกษาหาข้อมูล ดูคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่เป็นของแท้ได้มาตรฐาน และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาเสมอ สำหรับการประเมินสภาพผิวและสุขภาพโดยรวม

โดยระหว่างการทำ HIFU ผิวบริเวณนั้นอาจจะรู้สึกอุ่น ๆ และหลังทำอาจจะมีความรู้สึกว่าหน้าบวม ๆ แดง ๆ บ้าง แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองจึงไม่ต้องเป็นกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้หลังทำควรใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวอย่างเต็มขั้น และงดการล้างหน้าและถูหน้าแรง ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกระบม

ใครที่เหมาะกับการทำ HIFU เพื่อฟื้นฟูผิว

Hifu (ไฮฟู่) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ลดเหนียงใต้คางหรือต้องการจัดการกับปัญหาคางสองชั้น และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าระดับปานกลาง อยากขจัดริ้วรอยแต่ก็กลัวเข็ม กลัวเจ็บ หรือมีเวลาน้อยไม่สามารถนอนพักฟื้นนาน ๆ ได้ และยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวอื่น ๆ ดังนี้

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
• ผู้ที่ต้องการเน้นกรอบหน้าชัด ลดแก้ม ลดเหนียง
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ผู้ที่มีริ้วรอย เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม

ซึ่งข้อดีของการยกกระชับหน้า Hifu คือ เป็นการยกกระชับผิวที่ไม่ใช้เข็ม จึงไม่ทำให้เกิดรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังการรักษา ทำให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

HIFU กับ Thermage ต่างกันอย่างไร

HIFU กับ Thermage ต่างกันอย่างไรบ้าง ในเบื้องต้นอาจบอกได้ว่าเทคโนโลยีทั้งสองต่างกันตรงคลื่นที่ปล่อยออกมาและความสามารถในการลงลึกสู่ชั้นผิว

โดยตัว HIFU จะใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีความเข้มข้นสูงลงไปยังผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหน้าตึงกระชับ ส่วนเครื่อง Thermage จะปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่และยกกระชับผิว ลงไปลึกถึงชั้นไขมัน หากให้เปรียบเทียบความลึกที่คลื่นแต่ละแบบเข้าสู่ผิว จึงจะเห็นได้ว่า HIFU เข้าไปได้ลึกมากกว่านั่นเอง

ซึ่งการเลือกใช้บริการระหว่าง 2 ตัวนี้ หลังเข้ารับการปรึกษา แพทย์จะเป็นผู้ช่วยประเมินให้ว่าสภาพผิวของแต่ละคนควรรับบริการไหนมากกว่ากัน

Ulthera กับ HIFU ต่างกันอย่างไร

หากถามว่า Ulthera กับ HIFU ต่างกันอย่างไร จริง ๆ แล้วทั้ง HIFU และ Ultraformer III ต่างเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน มาดูกันว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง

HIFU

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) มีหลักการทำงานที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงพลังงานสูง ส่งตรงไปยังชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยจะมีจุดเด่นอยู่ที่ราคา ที่มีความประหยัดมากกว่า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มดูแลตัวเองและมีงบประมาณจำกัด แต่ยังคงต้องการเห็นผลลัพธ์ของผิวที่ยกกระชับขึ้นอย่างชัดเจนอยู่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ตอบโจทย์ในด้านของผลลัพธ์มาก ๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพลังงานของเครื่อง HIFU อาจจะไม่ได้กระจายตัวสม่ำเสมอเท่า Ultraformer III ซึ่งรวมไปถึงตัวผลลัพธ์เองก็อาจจะไม่ได้คงทนเท่าคนที่ทำ Ultraformer III ด้วย

Ultraformer III

ขณะที่ Ultraformer III มีหลักการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยี Macrofocus HIFU ที่มีความแม่นยำสูงกว่า ส่งพลังงานได้ลึกและกระจายตัวได้ดีกว่า ทำให้ผลลัพธ์มีความชัดเจนมากกว่า เห็นผลเร็วกว่า และคงทนมากกว่าเช่นกัน นอกจากนี้ด้วยความเป็นเทคโนโลยีใหม่ ยังทำให้ตัวเครื่องสามารถปรับระดับพลังงานได้หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ การทำหัตถการประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยลึก แต่ด้วยประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีเดิม ราคาของ Ultraformer III จึงค่อนข้างสูงกว่าการทำ HIFU ทั่วไป ซึ่งก็กลายเป็นอีกข้อจำกัดใหญ่ ๆ สำหรับหลายคน

ราคาของการยกกระชับผิวด้วย HIFU

ราคาของการยกกระชับผิวด้วย HIFU อาจแตกต่างกันไปตามบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น พื้นที่ของใบหน้าหรือบริเวณของร่างกายที่ต้องการยกกระชับ ระดับความชำนาญของแพทย์ และคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ ทั้งนี้จึงควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินราคาเบื้องต้นให้เรียบร้อย

รีวิวประสบการณ์จากผู้ใช้บริการจริง

รีวิวประสบการณ์จากผู้ใช้บริการจริง Vdesign Clinic ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านสำหรับความไว้วางใจ ให้เราได้ดูแลคุณ

บริการยกกระชับผิวด้วย HIFU โดย Vdesign Clinic

บริการยกกระชับผิวด้วย HIFU โดยVdesign Clinicเราการันตีคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ดูแลคนไข้ด้านความงามมาแล้วกว่า 10 ปี ผสานกำลังกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่มีมาตรฐานสากลตรวจสอบได้ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนจนเกิดการบอกต่อ

นอกจากนี้เรายังมีบริการประเมินปัญหาผิวและวางแผนการรักษาให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และดูแลติดตามผล รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลผิวอย่างจริงใจ มั่นใจได้เลยว่าทุกคนจะได้ผลลัพธ์ผิวที่พึงพอใจที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

รวมประเด็นคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ HIFU มาตอบไว้ที่นี่

HIFU เจ็บไหม

การทำ HIFU จะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่เป็นความเจ็บที่ทนได้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการยิงคลื่นเสียงลงไป เช่น แก้ม คาง หรือบริเวณที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก อาจรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อย อย่างไรก็ดีความรู้สึกเจ็บจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ต้องทำ HIFU กี่ครั้งถึงจะเห็นผล

ทำ HIFU กี่ครั้งถึงจะเห็นผลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และจำนวนช็อตที่ทำในแต่ละครั้ง

แต่โดยทั่วไปการทำ HIFU 1 ครั้ง จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ประมาณ 30% และจะค่อย ๆ กระชับขึ้นใน 1-2 เดือน เมื่อผ่านไป 2-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เผยผิวยกกระชับ รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ

HIFU มีผลข้างเคียงหรือไม่

การทำ HIFU อาจมีอาการบวมได้เล็กน้อยในบริเวณที่ทำ แต่อาการบวมจะค่อยๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปเอง

HIFU เหมาะกับใครบ้าง

HIFU เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ มีริ้วรอย และผู้ที่ผิวสูญเสียคอลลาเจน รวมถึงผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นมาก

หลังทำ HIFU ออกกำลังกายได้ไหม

หลังทำ HIFU สามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรระวังในช่วง 1-2 วันแรก เพราะอาจทำให้บวมได้ ควรออกกำลังกายเบา ๆ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ

ทำ HIFU อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยปกติทั่วไป หลังทำ HIFU ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน การบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ถึง 8 เดือน

อ้างอิงจาก