แนะนำ 2 ฟิลเลอร์ใต้ตาตัวดังระดับ Top Star ฉีดแล้วเห็นผลจริง
แนะนำ 2 ฟิลเลอร์ใต้ตาตัวดังระดับ Top Star ฉีดแล้วเห็นผลจริง
ในปัจจุบัน หัตถการประเภทฟิลเลอร์นั้นเป็นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลายส่วนบนใบหน้าได้อย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยเฉพาะฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องใต้ตาคล้ำและร่องลึก นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อตามความต้องการ แต่ในวันนี้ Vdesign Clinic จะมาพูดถึง 2 ยี่ห้อที่ดังระดับ Top Star ในวงการคลินิกเสริมความงามที่ฉีดแล้วเห็นผลจริง มาดูกันเลย
ทำความรู้จักการฉีดฟิลเลอร์
ทำความรู้จักการฉีดฟิลเลอร์ โดย ฟิลเลอร์ คือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเต่งตึงขึ้น เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ในการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการเติมเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้บริเวณไหนบ้าง
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้บริเวณไหนบ้าง นอกจากบริเวณใต้ตาแล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถฉีดได้ในบริเวณอื่น ๆ อีกหลายบริเวณ เช่น
- ขมับ
- ร่องแก้ม
- ร่องน้ำหมาก
- หน้าแก้ม แก้มส้ม
- ริมฝีปาก
- คาง
- ยกหน้า
- กรอบหน้า Jawline
ฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา สามารถใช้ฟิลเลอร์รักษาจุดอื่น ๆ ได้ไหม
สำหรับผู้ที่สงสัยว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถใช้ฟิลเลอร์รักษาจุดอื่น ๆ ได้ไหมขอตอบว่าฟิลเลอร์นั้นมีเนื้อหลายลักษณะ เนื้อละเอียด เนื้อนิ่ม เนื้อแข็ง โดยเนื้อแต่ละชนิดจะมีความหนาแน่นและความยืดหยุ่นแตกต่างกันไป การเลือกใช้ฟิลเลอร์จึงขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีดและปัญหาที่ต้องการแก้ไข ตัวอย่างเช่น ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับเติมเต็มใต้ตา อาจไม่เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม เนื่องจากความหนาแน่นไม่เพียงพอ หรือฟิลเลอร์สำหรับเติมคาง ไม่สามารถใช้เติมใต้ตาได้ เพราะเนื้อแข็งเกินไป
Filler ฉีดใต้ตา ยี่ห้อไหนน่าใช้ที่สุด
หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ฉีดใต้ตา ยี่ห้อไหนน่าใช้ที่สุด บอกเลยว่าในปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เลือก แต่ 2 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์คือ Juvederm และ Restylane
Juvederm
Juvederm คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ แต่ละรุ่นจะมีความหนาแน่นและความยืดหยุ่นแตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน:
- Juvederm Volite: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Juvederm Volux: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องใต้ตา ร่องแก้มที่ลึก และสร้างโครงหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
- Juvederm Voluma: เหมาะสำหรับการเติมเต็มโหนกแก้มและสร้างโครงหน้า เสริมกระดูกเบ้าตาให้ดูอิ่มฟู อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Vobella: เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปาก และปรับรูปปากให้ดูอิ่มฟูและสวยงามขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volift: เหมาะสำหรับการยกกระชับผิว และเติมเต็มร่องแก้มที่ไม่ลึกมากนัก อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
Restylane
Restylane คือ ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ที่ผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้เช่นกัน:
- Restylane Vital Light: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Restylane Defyne: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้มที่ลึก และสร้างโครงหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
- Restylane LYFT Lidocaine: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม และสร้างโครงหน้าให้ดูอิ่มฟู อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- Restylane Classic: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม และสร้างโครงหน้าให้ดูอิ่มฟู อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- Restylane Vital: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
สรุป
การเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาชนิดใดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล