การทำหัตถการ HIFU เหมาะกับใคร? และต้องทำกี่ช็อตถึงเห็นผล? ไขข้อข้องใจก่อนตัดสินใจ
การทำหัตถการ HIFU เหมาะกับใคร? และต้องทำกี่ช็อตถึงเห็นผล? ไขข้อข้องใจก่อนตัดสินใจ
การทำหัตถการ HIFU หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นหนึ่งในเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การทำไฮฟูไม่ได้เหมาะกับทุกคน และจำนวนช็อตที่ใช้ในการรักษาก็มีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ วันนี้ Vdesign Clinic จะมาตอบคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับการทำไฮฟู ไม่ว่าจะเป็นไฮฟู เหมาะกับใคร? ต้องทำกี่ช็อตถึงจะเห็นผล? เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจทำหัตถการนี้
หลักการทำงานของ High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU)
หลักการทำงานของ High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU)
หลักการทำงานของ HIFU ใช้หลักการของคลื่นเสียงความถี่สูงในการส่งพลังงานความร้อนลงไปยังชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือน และรูปหน้าดูเรียวขึ้น
เครื่องไฮฟูมีทั้งหมดกี่แบบ อะไรบ้าง?
เครื่องไฮฟูมีหลายแบบ แต่ที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่
- เครื่องไฮฟู Microfocused : เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวชั้นบน ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
- เครื่องไฮฟู Macrofocused : สามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อชั้นลึก เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า
- เครื่องไฮฟู MMFU : เป็นการผสมผสานระหว่าง Microfocused และ Macrofocused ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย
จุดเด่นของหัตถการไฮฟู
จุดเด่นของหัตถการไฮฟู มีดังนี้
- ช่วยยกกระชับ และปรับรูปหน้า : ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและมีโครงหน้าที่ชัดเจน
- แก้ไขปัญหาริ้วรอย : ลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม และร่อง nasolabial fold
- ผิวเยาว์วัยมากขึ้น : ผิวดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน และเปล่งปลั่ง
- เห็นผลได้ในระยะยาว : ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ และอยู่ได้นาน
ต้องทำไฮฟูทั้งหมดกี่ช็อตจึงจะเห็นผล
ต้องทำไฮฟูทั้งหมดกี่ช็อตจึงจะเห็นผล เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย ซึ่งในความจริงแล้ว จำนวนครั้งที่ต้องทำไฮฟูขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยทั่วไปจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์อาจแนะนำให้ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง โดยห่างกันประมาณ 2-3 เดือน สรุปได้ว่า จำนวนช็อตของไฮฟู ที่ต้องทำเพื่อให้เห็นผลนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างค่ะ เช่น
ปัญหาผิว
หากมีริ้วรอยเยอะ หรือผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องใช้ช็อตมากกว่าผู้ที่มีปัญหาผิวเล็กน้อย
บริเวณที่ทำ
การทำไฮฟูบริเวณใบหน้าทั้งหมด จะใช้ช็อตมากกว่าการทำเฉพาะจุด
ประเภทของเครื่องไฮฟู
เครื่องไฮฟู แต่ละชนิดมีพลังงานและความลึกของการทำงานแตกต่างกัน
สภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผิวของแต่ละคนมีความแข็งแรงและตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกัน
โดยทั่วไปแล้ว จำนวนช็อตที่ใช้ในการทำไฮฟู ทั่วใบหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 200-600 ช็อต แต่แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและปรับจำนวนช็อตให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ใครที่เหมาะสำหรับการทำไฮฟู
คนที่เหมาะในการทำไฮฟู ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องตื้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า
- ผู้ที่ไม่ต้องการการผ่าตัด
ช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการทำไฮฟู
ช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการทำไฮฟู หัตถการนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ แต่สำหรับผู้ที่มีอายุมาก อาจต้องทำมากกว่า 1 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
สรุป
สรุปแล้ว การทำหัตถการ HIFU เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ก่อนตัดสินใจทำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับตนเอง